Monday, 21 October 2024

แอนนิโมมิเตอร์คืออะไร? วิธีเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งาน

แอนนิโมมิเตอร์คือ

แอนนิโมมิเตอร์คือเครื่องมือที่ใช้วัดความเร็วลมและความดันลม เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักอุตุนิยมวิทยาที่ศึกษารูปแบบสภาพอากาศ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่องานของนักฟิสิกส์ที่ศึกษาวิธีการเคลื่อนที่ของอากาศอีกด้วย

แอนนิโมมิเตอร์แบบทั่วไปจะมีลักษณะแบบถ้วยสามหรือสี่ถ้วยติดอยู่กับแขนแนวนอน แขนติดอยู่กับแท่งแนวตั้ง เมื่อลมพัด ถ้วยจะหมุน ทำให้ก้านหมุน ยิ่งลมพัดแรงขึ้นก้านก็จะหมุนเร็วขึ้น เครื่องวัดความเร็วลมจะนับจำนวนรอบการหมุนหรือรอบซึ่งนำไปใช้ในการคำนวณ หากความเร็วลมไม่คงที่มีทั้งลมแรงและลมเบาโดยปกติจะถูกเฉลี่ยค่าในช่วงเวลาสั้นๆ

หากต้องการวัดความเร็วลมให้นำแอนนิโมมิเตอร์ไปวัดจากนั้นทำการนับจำนวนครั้งที่ถ้วยที่มีเครื่องหมายสีแดงผ่านหน้าจอใน 30 วินาที แล้วคูณด้วยสองเพื่อให้ได้รอบหรือรอบต่อนาที ด้วยวิธีนี้ความเร็วลมจะแสดงเป็นรอบต่อนาที (rpm)

ลักษณะพิเศษของแอนนิโมมิเตอร์แต่ละประเภท

แอนนิโมมิเตอร์ชนิดอื่นๆ จะคำนวณความเร็วในรูปแบบที่ต่างกัน เช่น

  • แบบลวดร้อน: จะใช้ประโยชน์จากอากาศทำให้วัตถุที่ร้อนเย็นลงเมื่อมีลมไหลผ่านวัตถุนั้น โดยลวดเส้นเล็กที่ให้ความร้อนด้วยไฟฟ้าจะถูกวางไว้ในสายลมปริมาณพลังงานที่ต้องใช้ในการรักษาสายไฟให้ร้อนใช้เพื่อคำนวณความเร็วลมยิ่งความเร็วลมสูงเท่าไรก็ยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้น เพื่อรักษาอุณหภูมิสายไฟให้คงที่
  • แบบท่อ: จะใช้แรงดันอากาศเพื่อกำหนดแรงดันลมหรือความเร็วโดยจะวัดความดันอากาศภายในหลอดแก้วซึ่งปิดอยู่ที่ปลายด้านหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบความดันอากาศภายในท่อกับความดันอากาศภายนอกท่อ ทำให้สามารถคำนวณความเร็วลมได้
  • แบบอื่นๆ: ทำงานโดยวัดความเร็วของคลื่นเสียง หรือโดยฉายลำแสงเลเซอร์ไปที่อนุภาคเล็กๆ ในลม และวัดผลกระทบ

หากสนใจประเภทของเครื่อง Anemometer สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ประเภทของAnemometerและหลักการทำงาน

วิธีในการเลือกแอนนิโมมิเตอร์

  1. ประเภทในการวัด: เครื่องวัดแต่ละประเภทมีการวัดและการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น วัดเฉพาะความเร็วลม, วัดเฉพาะทิศทางลม หรือทั้งสองอย่าง การระบุตัวแปรที่ต้องการวัดจะช่วยให้จำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลงมากขึ้น
  2. ความแม่นยำ: ความแม่นยำของการวัดเป็นสิ่งสำคัญ พิจารณาระดับความแม่นยำที่ต้องการในการวัดระดับใด และในเงื่อนไขการใช้งานใดบ้าง หากต้องการข้อมูลที่แม่นยำต้องใช้รุ่นที่คุณภาพสูงและแม่นยำมากขึ้น
  3. คุณสมบัติพิเศษ: บางรุ่นอาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น บันทึกข้อมูลได้ เชื่อมต่อแบบไร้สายได้ ทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ หรือฟังก์ชันการวัดขั้นสูงอื่น ๆ ควรพิจารณาว่าคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้มีความสำคัญหรือจำเป็นกับการใช้งานหรือไม่
  4. ความคงทน: ควรเลือกรุ่นที่มีความทนทานและความคงทนที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขการใช้งาน
  5. ตัวเลือกแบบพกพาหรือติดตั้ง: หากต้องพกพาไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ อาจต้องใช้รุ่นพกพาหรือน้ำหนักเบา หากใช้แบบติดตั้งต้องให้แน่ใจว่าสามารถหาตำแหน่งที่ต้องการในการติดตั้งได้
  6. ราคา: ราคาอาจแตกต่างกันมาก-น้อยขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ และคุณภาพของอุปกรณ์ ดังนั้นควรกำหนดราคาเลือกรุ่นในการซื้อที่เหมาะสมกับต้องการและงบประมาณ
  7. อ่านรีวิวและเปรียบเทียบรุ่น: ค้นคว้าและศึกษาสินค้ารุ่นต่างๆ อ่านรีวิวจากผู้ใช้ และเปรียบเทียบข้อกำหนดและคุณลักษณะต่างๆ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีข้อมูลในการตัดสินใจและค้นหาเครื่องวัดที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ
  8. การสอบเทียบและการบำรุงรักษา: ปัจจัยในข้อกำหนดในการสอบเทียบและความต้องการในการบำรุงรักษา เครื่องวัดบางรุ่นอาจต้องมีการสอบเทียบเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าการวัดมีความแม่นยำ ในขณะที่รุ่นอื่นๆ อาจไม่ต้องมากกว่า

การใช้แอนนิโมมิเตอร์

แอนนิโมมิเตอร์ถูกนำมาใช้ในสถานีตรวจอากาศแทบทุกสถานี ความเร็วลมจะช่วยระบุการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสภาพอากาศ เช่น พายุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักบิน วิศวกร และนักอุตุนิยมวิทยา

วิศวกร นักฟิสิกส์การบิน และอวกาศมักใช้แบบเลเซอร์โดยเครื่องมือประเภทนี้ใช้ในการทดลองความเร็ว ความเร็วคือการวัดอัตราเร็วและทิศทางของลมในการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ซึ่งจะคำนวณความเร็วลมรอบๆ รถยนต์ เครื่องบิน และยานอวกาศ เป็นต้น โดยแอนนิโมมิเตอร์นี้ช่วยให้วิศวกรทำให้ยานพาหนะเหล่านี้มีอากาศพลศาสตร์ (aerodynamic) มากขึ้น

โดยแอนนิโมมิเตอร์นั้นมีประโยชน์มากมายโดยสามารถอ่านเพิ่มได้ที่ ประโยชน์ของเครื่องวัดความเร็วลมมีอะไรบ้าง